ทำจมูก

Nose Reshaping Tricks & Care

บทความจากหนังสือ Cosmetic (www.cosmeticbeauty.com) บทสัมภาษณ์ นพ.จุฑา จันทร์ศรี

เปลี่ยน 'จมูกชมพู่' ให้ดูสวยกำลังงาม
จมูกโตไม่น่าดู อย่าหมดความมั่นใจ แค่เลือกใช้หนึ่งในศัลยกรรมวิธีเหล่านี้มาช่วย จริงอยู่ว่า จมูกงุ้มๆ โตๆ ไม่ใช่พิมพ์นิยมของผู้หญิงแสนหวานน่ารักที่คุณอยากจะเป็น แต่ก่อนจะตรงดิ่งไปยังคลินิกศัลยกรรมให้แพทย์ตกแต่งเปลี่ยนรูปจมูกให้ ก็เป็นสิ่งฉลาดที่คุณต้องพลิกหน้านี้อ่านซะก่อน จะได้ไตร่ตรองถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สิ่งนี้
การลดขนาดและเปลี่ยน รูปทรงจมูกนั้นจะทำให้จมูกดูดีขึ้น แต่คุณจะแน่ใจได้อย่างว่าการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ จะสร้างผลลัพธ์ที่พอใจให้มากแค่ไหน ข้อจำกัดของการผ่าตัดมีหรือไม่ ดังนั้นคอลัมน์ครั้งนี้ เราจึงได้เชิญ นพ.จุฑา จันทร์ศรี ศัลยแพทย์ตกแต่ง มาให้ความรู้ทางวิชาการในเรื่องนี้กัน

เปลี่ยนลุคใหม่

เพื่อผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ นพ.จุฑาเริ่มต้นด้วยการแนะนำว่าคุณไม่สามารถเลือกรูปร่าง หรือขนาดของจมูกจากภาพดารา เนื่องจากลักษณะของใบหน้าหรือส่วนประกอบของใบหน้าไม่เหมือนกัน แต่หากตัดสินใจว่าจมูกที่คุณพ่อให้มานั้นใหญ่ ไม่เหมาะสมกับความเป็นลูกสาวแสนสวยของเรา การปรับแต่งและลดขนาดจมูกเป็นสิ่งที่ดูจะเวิร์คกับคุณจริงๆ ก็ควรไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ตรวจพิจารณาหาวิธีการปรับแต่งรูปจมูกให้ ดูดีได้อย่างไร ซึ่งก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า การศัลยกรรมลดขนาดจมูกนั้นแบ่งได้เป็น 2 อย่างคือ

1 การลดกระดูกจมูกส่วนสันที่โค้งนูน หรือโก่ง หรือที่เรียกว่าจมูกเหยี่ยว , จมูกเล่ห์เหลี่ยม
2 การลดความกว้างของฐานจมูก

สลักเสลาจมูกเหยี่ยว

จมูกเหยี่ยว จมูกนกแก้ว หรือจมูกที่มีสันโค้งงอเป็นเงี่ยงคล้ายๆ แม่มด เป็นปัญหาความสวยงามที่สำคัญโดยเฉพาะสำหรับชาวตะวันตกและเอเชียกลาง นพ.จุฑาให้ความรู้ว่าการผ่าตัดตกแต่งรูปจมูกให้กลับมาตรงได้รูปและดูดีเช่น นี้เองคือการลดจมูกตามภาษาสากล ซึ่งผู้หญิงในแถบประเทศดังที่ได้กล่าวจะมาทำการผ่าตัดปรับแต่งกันเยอะ (จำได้ไหม  Cosmetic เคยอัพเดทข่าวการศัลยกรรมเหลาสันจมูกจนตรง ของเจ้าหญิงเลติเซีย พระชายาในเจ้าชายเฟลิเปแห่งสเปน) การผ่าตัดทำโดยแพทย์จะเข้าไปทำการตกแต่งสันใหม่ ผ่านรูจมูกเข้าไปสลักเสลาเปลี่ยนรูปสันกระดูกจากโค้งนูน เป็นตรงหรือแอ่นเล็กน้อย บางครั้งอาจมีการแต่งกระดูกอ่อนที่ปลายด้วย เพื่อให้ได้รูปทรงจมูกที่สวยงาม และปลายจมูกที่เด่นขึ้น แต่เนื่องจากคนไทยไม่ค่อยพบปัญหานี้มากนัก เราจึงขอข้ามรายละเอียดไปเล่าในเรื่องของการปรับลดขนาดแบบที่ 2 ซึ่งคนไทยสนใจมากกว่ากัน

เปลี่ยนจมูกชมพู่จนดูดี

นพ.จุฑาเล่าให้ฟังว่ามีคนไทยจำนวนไม่น้อยสนใจจะลด 'ความกว้าง' ของจมูก จากปัญหาที่รู้สึกว่าจมูกกว้าง ใหญ่เหมือนชมพู่ ทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วนจนต้องมาปรึกษาแพทย์เพราะอยากทำศัลยกรรมลดความกว้าง ของจมูก ซึ่งแบ่งได้เป็นจมูกกว้างที่ฐานกระดูก (ส่วนบน) และกว้างที่ปลายรูจมูก (ส่วนล่าง)  ในที่นี้จะ Focus เฉพาะโครงสร้างที่เป็น กระดูก ซึ่งก็ต้องบอกไว้ ก่อนว่าการผ่าตัดประเภทนี้ อาจไม่ได้ผลช่วยลดขนาดจมูกได้เล็กสมใจ เนื่องจากข้อจำกัดทางโครงสร้างเรื่องความหนาของกระดูกและผิวหนังทำให้เลื่อน ฐานจมูกได้ไม่มากนัก

การลดความกว้างของกระดูกจมูก คือ การเลื่อนสามเหลี่ยมที่ประกอบขึ้นเป็นโครงจมูก ขยับขาให้เข้ามาแคบลง แต่อย่าลืมว่าจมูกกับโครงใบหน้าอื่นๆ นั้นเป็นชิ้นเดียวกัน เหมือนกับพื้นแผ่นดินเดียวกัน จึงเลื่อนกระดูกเข้ามาได้มากที่สุดเท่ากับ 'ความหนา' ของมันเท่านั้น เพราะถ้าห่างมากกว่านั้น กระดูกจะลอยอยู่ (ไม่ได้เชื่อมต่อกับโครงหน้า) ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เหมือนแผ่นดินที่ลอยอยู่กลางอากาศไม่ได้ ดังภาพจะเห็นว่าในการผ่าตัดนั้นแพทย์จะเลื่อนกระดูกจุด A ให้เข้ามาซ้อนกับเนื้อกระดูกด้านในที่จุด B

การลดขนาดจมูกด้วยวิธีนี้จึงได้ผลไม่มาก ส่วนใหญ่เปลี่ยนแปลงลดลงข้างละไม่เกิน 1 มม. หากเป็นผู้หญิงที่กระดูกบาง อาจจะได้เพียง 0.8-0.9 มม. เท่านั้น ซึ่งบางคนก็พอใจว่าการกระเถิบนั้นทำให้ข้างกระดูกจมูกดูลึกขึ้น แต่สำหรับบางคนอาจจะยังคิดว่าไม่เหมาะสม ทางเลือกที่ดีกว่าจึงย้อนกลับไปที่การเสริมจมูก

คงจะงงแล้วใช่มั้ยคะว่าการลดจมูกจะเกี่ยวกับการเสริมจมูกได้อย่างไร นพ.จุฑาอธิบายว่า ส่วนใหญ่จมูกชมพู่ที่ดูโตนั้นมักจะมีสันจมูก 'ป้าน' หากทำการเสริมจมูกให้โด่งเห็นเป็น 'สัน' ขึ้นมา ฐานจมูกก็จะดูเล็กลง ทำให้รูปทรงจมูกโดยรวมดูเล็กลงไปโดยอัตโนมัตินั่นเอง

ขั้นตอนการผ่าตัดลดจมูก เริ่มจากการดมยาสลบ แล้วแพทย์จะใช้สิ่วทางการแพทย์ที่มีขนาดเล็กมาก กว้างเพียงไม่กี่มิลลิเมตร สอดเข้าไปในรูจมูก แล้วค่อยๆ แซะตัดกระดูกบริเวณฐานจมูก (ตรงจุดเชื่อมต่อระหว่างจมูกกับกระดูกแก้ม) เพื่อเลื่อนฐานสามเหลี่ยมเข้ามา แล้วเย็บปิดแผลซ่อนอยู่ในรูจมูก

หลังผ่าตัด ใบหน้าจะมีการบวมเหมือนกับการผ่า ตัดทั่วไป โดยจะบวมและรู้สึกปวดมากที่บริเวณจมูกใน 3 วันแรก ให้นอนหนุนหมอนสูง การลุกเคลื่อนไหวจะช่วยให้ยุบบวมเร็วขึ้น และพักให้มากที่สุด การบวมจะค่อยๆ ยุบลงภายใน 1- 2 สัปดาห์ อาจมีรอยฟกช้ำบ้าง และหายไปในที่สุด ซึ่งความช้ำของแผลจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการผ่าตัดว่าฝีมือแพทย์ปราณี ตเพียงไร และยังขึ้นอยู่กับปัจจัยตัวคนไข้เองด้วย โดยหากเป็นผู้ที่มีอายุจะมีโอกาสเขียวช้ำมากกว่า

สนนค่าใช้จ่ายในการรักษา สำหรับการผ่าตัดที่ใช้ระยะเวลา 1-2 ชม.โดยประมาณ ค่าฝีมือแพทย์ รวมการดมยาสลบ พักโรงพยาบาล 1 คืน จะอยู่ที่ 50,000-60,000 บาท ถ้าไม่นอนโรงพยาล ค่าใช้จ่ายก็จะถูกลง

อย่างไรก็ดี นพ.จุฑาก็เตือนว่า แม้ว่าจะอยู่ในมือของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้วก็ตาม ให้ระลึกอยู่เสมอว่าการผ่าตัดแก้ไข หรือเสริมความงามนั้น ไม่สามารถรับประกันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าจะออกมาสมบูรณ์แบบ โรคแรกซ้อนที่อาจพบได้คือ  บวมหรือเขียวช้ำ  กระดูกประสานกันไม่แนบเนียน  ส่วนการติดเชื้อหรือข้อแทรกซ้อนที่ร้ายแรงพบได้น้อยมาก

การเลือกแพทย์ที่จะทำการผ่าตัดก็เป็นสิ่งสำคัญมาก "คนไข้ต้องปรึกษากับแพทย์ถึงปัญหา บอกให้ชัดเจนว่าเราต้องการจมูกแบบไหน แล้วแพทย์จะตรวจพิจารณาให้ว่าคุณเหมาะที่จะทำหรือไม่ แพทย์ที่มีความสามารถเพียงพอควรจะอธิบายรายละเอียดวิธีการ ขั้นตอนการทำอย่างแจ่มแจ้งทุกองค์ประกอบ รวมถึงผลลัพธ์ที่คาดคะเนได้ ทั้งนี้ นอกจากจะทำให้เรามั่นใจในหมอที่ซื่อตรงต่อวิชาชีพแล้ว ตัวคนไข้เองก็จะมั่นใจในผลที่จะได้ เพราะในการเปลี่ยนแปลงทรงจมูกที่เรารู้สึกว่าโตเกินไปให้ดูดี บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีผ่าตัดลดขนาดแต่ใช้วิธีเสริมจมูกแทนดังที่ ได้กล่าวมาแล้ว ซึ่งอาจจะให้ผลชัดเจนและทำให้เรามีความสุขมากกว่าก็ได้ครับ" นพ.จุฑาสรุปปิดท้าย

ดังนั้นให้แน่ใจว่า การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ กับจมูกเช่นนี้จะทำให้คุณพอใจจริงหรือไม่ นั่นก็จะทำให้การผ่าตัดนั้นแฮปปี้ มีความมั่นใจกับหน้าตาที่เปลี่ยนแปลงไปค่ะ

บทความจากหนังสือ Cosmetic (www.cosmeticbeauty.com) บทสัมภาษณ์ นพ.จุฑา จันทร์ศรี